top of page

Articles

บทความ

Our

Environment 

งานหลักๆของเดอะซันฟาร์มก็คือการมีส่วนร่วมในการพัฒนาการผลิตพืชผลทางการเกษตรร่วมกับเกษตรกร  ส่งเสริมให้คำแนะนำและจัดประชุมมอบความรู้ในการผลิตพืชด้วยเกษตรอินทรีย์  อีกทั้งเราเป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่าย  ปัจจัยทางการเกษตร  อาทิ ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ สารอาหารพืชประเภทอินทรีย์ สารป้องกันกำจัดแมลงอินทรีย์  สารป้องกันกำจัดเชื้อโรค สารปรับปรุงคุณภาพดิน  แร่ธาตุภูเขา  เมล็ดพันธุ์พืช  ผลผลิตทางการเกษตร อาทิ ผัก ผลไม้ ธัญพืช อีกทั้งวัสดุอุปกรณ์ทางการเกษตร  เพื่ออำนวยความสะดวกแก่เกษตรกร  ให้มีปัจจัยการผลผลิตที่มีคุณภาพ  เชื่อถือได้  เพื่อการทำฟาร์มอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

Our Plants 

ที่ไร่ลูกค้าและคู่ค้าเดอะซันฟาร์มของเรามีการปลูกพืชอาหาร  งานอีกด้านของเราคือการติดตามดูแล  ผัก  ผลไม้  สมุนไพรและดอกไม้ให้มีคุณภาพดีที่สุดตามฤดูกาลนั้นๆ  เพื่อสร้างคุณประโยชน์และโภชนาการ ส่งเสริมการรับประทานอาหารตามฤดูกาล ผลิตภายใต้มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ทั้งระดับชาติและระดับนานาชาติ  รวมถึงการแปรรูปผลิตภัณฑ์เป็นอาหารอินทรีย์แสนเอร็ดอร่อย

การฝังเข็มต้นทุเรียน

การฝังเข็มต้นทุเรียนถือเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่หลวงในประวัติศาสตร์การผลิตทุเรียน ผมไม่ทราบว่าใครเป็นคนริเริ่ม แต่มีการส่งเสริมโดยกรมวิชาการเกษตรไทยให้แก่ปัญหาโรคหนักๆหลายๆอย่างในต้นทุเรียนด้วยการฝังเข็ม การฝังเข็มต้นไม้เกิดขึ้นครั้งแรกที่เขตปลูกส้มของประเทศไทยเพื่อแก่ปัญหาโรคกรีนนิ่ง ซึ่งมีพาหะคือเพลี้ยไก้แจ้ ที่ทิ้งเชื้อไมโครพลาสม่าไว้ที่ใบ เปลือกและผลส้ม ทำให้ต้นส้มที่ติดโรค ยืนต้นตายแทบทั้งสิ้น ทว่าปัญหาของทุเรียนนั้นยังไม่สาหัสเท่าส้ม แต่มีการอุตริ คิดพิเรนห์ในการเจาะต้นทุเรียนและนำสารเคมีบางอย่างไปฝังไว้ที่ต้นพร้อมกับอุดรู คาเข็มทิ้งไว้อย่างนั้น ผลลัพธ์ก็คือ ในปีแรกเกษตรกรที่ใช้วิธีนี้ ร้อยละ80 พูดเสียงอ่อยๆกันว่า ต้นทุเรียนท่าทางจะหาย ที่พูดเสียงอ่อยเพราะกลัวเสียหน้า จ่ายเงินเป็นค่ายาค่ารักษาไปแล้ว แต่ในปีที่ 2 แทบทุกสวนเริ่มสังเกตเห็นชัดเจนว่าต้นทุเรียนเริ่มโทรมลงอย่างเห็นได้ชัด กว่าจะรู้ตัวว่าเกิดจาการฝังเข็มก็สายไปแล้ว และผมกล้าพูดว่าทุกสวนทุเรียนที่ใช้วิธีฝังเข็มแล้วแก้ไขไม่ดี ต้นทุเรียนมีโอกาสตาย 100% ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดายมากเพราะ กว่าจะผลิตทุเรียนได้สักต้นต้องใช้ต้นทุนทรัพย์และเวลามหาศาล แต่กลับแก้ปํญหาผิดวิธี นำมาซึ่งความตายของต้นไม้ สารเคมีที่ใช้ฝังต้นทุเรียนคืออะไร สารดังกล่าวมีจำหน่ายในชื่อการค้ามากมาย แต่สารออกฤทธิ์ถูกเรียกว่า สารฟอสฟอนิค แอซิด หรือ ฟอสฟอรัส แอซิด ซึ่งสารนี้มีความเข้มข้นค่อนข้างมาก เรียกว่า หากราดลงไปบนผิวหนังคน แล้วไม่มีการล้างออก รับรองว่าเละเทะ สารจะกัดกร่อนผิืวหนังอย่างแน่นอน สารนี้เมื่อมีการฝังลงไปในต้นทุเรียนจะเข้าไปกัดกร่อนทำลายเนื้อเยื่อต้นไม้ เซลล์ท่อลำเลียงอาหารและท่อลำเลียงน้ำจะถูกกร่อนจนเสียหาย จนส่งผลให้เกิดบาดแผลที่แก้ไขยาก ทำให้ระบบท่อปิดตาย ทุเรียนลำเลียงน้ำหรืออาหารผ่านท่อเหล่านั้นไม่ได้ เมื่อมีการให้ปู่ยหรือฝนตก ทุเรียนไม่มีประสิทธิภาพในการดูดน้ำหรือปุ๋ยเลย จึงทำให้เกิดการหมักหมมของเกลือเคมี อันเป็นบ่อเกิดของเชื้อรารากเน่าโคนเน่าทางดิน ต้นไม้ตายและถูกเชื้อพาหะโจมตีซ้ำอีกระลอก ยิ่งทำให้เกษตรกรกุมขมับ

ผมขอแจ้งอีกครั้ง การฝังเข็มไม่ใช่ทางออกของปัญหาแม้แต่นิดเดียว การแก้ปัญหานั้นง่ายมาก แต่เกษตรกรปัจจุบันเลือกวิธีการผิด เพราะฟังแบบผิดๆมาปากต่อปาก พอต้นไม้ตายมา ผมไม่เคยเห็นเกษตรกรแม้แต่รายเดียวบ่นโทษร้านค้าหรือคนที่ขายสารดังกล่าว รวมถึงแนะนำวิธีการดังกล่าวให้ ได้แต่บ่นโทษอะไรก็ไม่ทราบ แล้วก็ท้อแท้ ซึ่งเรื่องที่เกิดแบบนั้นก็เพราะตัวเกษตรกรเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าหนทางที่ตนเลือกจะแว้งกลับมาทำร้ายได้เจ็บแสบแบบนี้ เรื่องที่ผมพูดจริงหรือไม่ เกษตรกรที่ได้อ่านข้อความที่ผมเขียนนี้คงจะทราบดีอยู่แล้ว ฉะนั้นเมื่อรู้แล้วขอให้กลับตัวเลิกใช้วิธีการฝังเข็มในการแก้ไขปัญหา และโทรหาเราเพื่อนำวิธีการแก้ไขที่ถูกต้องไปใช้

การใช้สารโพแทสเซียม คลอเรท

ในการผลิตลำไยปัจจุบัน ด้วยปัญหาสภาพอากาศและสภาพต้นไม้ที่ทรุดโทรมลง ด้วยเหตุจากการที่เกษตรกรใช้ยาสารพัด เพื่อต้องการให้ลำไยออกนอกฤดูกาลหรือสามารถบังคับได้ตามใจนึก มีการนำสาร โพแทสเซียม คลอเรทและโซเดียมคลอเรทมาใช้ ซึ่งโดยปกติ โดสการใช้จะอยู่ในระดับแค่กระตุ้นศักยภาพให้ต้นลำไยออกดอกนอกฤดูกาลได้เท่านั้น ทว่ายิ่งผ่านไปปีต่อปี โดสการใช้ยิ่งมีอัตรามากขึ้น ไม่เพียงโดสที่มากขึ้น ยังมีการนำสารทั้งสองมาผสมเข้าสูตรกับสารอื่นๆ จนเกิด สารรวมซึ่งมีพิษร้ายแรงที่คนผสมนึกไม่ถึง ส่งผลให้ต้นลำไยที่ได้รับสาร เกิดอาการอมสารพิษ และแสดงอาการพิษปกติอย่างเห็นได้ชัด เช่น ทิ้งดอก ทิ้งใบ ผสมไม่ติด ใบเล็กลง รากและโคนเน่า เป็นเรื่องน่าเสียดายอย่างยิ่งเพราะเกษตรกรใช้ทุนรอนและเวลาในการบำรุงฟื้นฟู อีกทั้งยาและปุ๋ยมากมายเพื่อทำให้ต้นลำไยสะสมอาหารพร้อมแก่การออกดอก แต่ไปตกม้าตาย นำสารโปแทสเซียม คลอเรทและโซเดียม คลอเรท ที่มีการผสมยาอื่นๆอาทิ กำมะถัน ยูเรีย 0-52-34 13-0-46 แคลเซียม+โบรอน และอื่นๆอีกที่ยังไม่ทราบชนิด ผสมเข้ากันจนเกิดฟังชั่นการทำงานของยาที่ผิดเพี้ยน คือจะสั่งให้พืชออกดอกก็ไม่ใช้ ทิ้งใบก็ไม่เชิง บางสูตรสับสนสร้างตาใบคุมตาดอกแทนอีก ที่ร้ายที่สุดคือ ใบร่วงและพืชตาย เพราะการนำ โปแทสเซียม คลอเรทและโซเดียม คลอเรท ซึ่งเป็นสารควบคุมของกระทรวงกลาโหม เนื่องจากมันเป็นสารประกอบระเบิด พลุ ประทัดและวัตถุระเบิดไปใช้อย่างไม่รู้จักความรับผิดชอบ ส่งผลให้เกิดความเสียหายของเกษตรกรผู้ผลิตลำไยในวงกว้าง อาทิ โปแทสเซียมและโซเดียม คลอเรท เมื่อนำไปผสมกับ กำมะถุน หรือฟอสฟอรัส จะมีความอ่อนไหวต่อการถูกกระทบกระแทกมาก หากมีแรงกระแทก ทุบหรือตกหล่นมากพอ จะเกิดการระเบิดจนมีผู้เสียชีวิต 40-50 รายดังข่าวก่อนหน้านี้ ฉะนั้น ผมจึงขอส่งสาสน์เตือนทุกท่านเรื่องการใช้สารดังกล่าว ให้มีความระมัดระวังอย่ายิ่งและจงตระหนักถึงผลลัพธ์ของการใช้สารดังกล่าวให้ดี เพราะสารทั้งสองไม่ใช่ปุ๋ย พืชกินแล้วมีแต่ข้อเสีย ใบแห้งกรอบ ยิ่งใช้โดสมากพืชยิ่งตาย ฉะนั้นจงใช้แต่พอเหมาะพอควร และไม่ควรใช้สารผสมแปลกปลอมที่หาที่มาที่ไปไม่ได้ เพราะเมื่อเกิดความเสียหาย จงอย่าโทษใคร ให้สำรวจตัวเองก่อนว่าท่านไปใช้อะไรมา และท่านรู้หลักการใช้และผลลัพธ์จากการใช้งานดีหรือยัง การทำให้พืชออกดอกไม่ใช่เรื่องยาก แต่ควรมีความเข้าใจและไม่รบกวนกระบวนการออกดอกของพืชโดยใช้สารเคมีอันตรายและใช้อย่างไม่มีความระมัดระวัง ผมขอเตือนอีกครั้ง การใช้สารดังกล่าวโดยไม่มีความรู้ที่ดีพอ จะส่งผลให้ต้นลำไยของท่านตายและท่านจะขาดทุนเสียหาย ความผิดประการนี้เป็นผลจากความผิดของท่านเองทั้งสิ้น บริษัทเดอะซันฟาร์มมีหน้าที่แนะนำ ส่งเสริมความรู้และห้ามปรามท่านจากพิษภัยของสารเคมีที่อันตรายต่อตัวท่านและต้นไม้ของท่านเอง ฉะนั้นโปรดพิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนใช้ยาอันตราย ต่อแต่นี้ไป

ไนโตรเจนทางการเกษตร

ไนโตรเจน เป็นธาตุที่มีมากบนโลกเราถึง 73% ทว่าทั้งหมดล้วนอยู่ในรูป แก๊ซ คือ ลอยอยู่ในชั้นบรรยากาศ เราเก็บเกี่ยวมาใช้ประโยชน์ไม่ได้ เพราะมัน เกาะอยู่กับออกซิเจนและไฮโดรเจน ทางเดียวที่ไนโตรเจนธรรมชาติเหล่านี้จะหลุดออกจาก บรรยากาศ มาใช้ประโยชน์ได้ก็คือ การถูกประจุไฟฟ้า สัมผัสแล้วแตกตัว คลายแรงยึดเหนี่ยว เมื่อนั้นมันจะลอยอย่างอิสระและพร้อมใช้ประโยชน์. ทว่า เราจะมีไฟฟ้ามหาศาลเพื่อทำลายพันธะไนโตรเจนในบรรยากาศได้ก็ต้องรอ ฟ้าผ่า ซึ่งเกิดในช่วงฤดูฝน กับอีกช่วงคือ ฤดูมรสุม ฉะนั้น ไนโตรเจนที่อยู่ในฝนมีปริมาณมากและเข้มข้นเพียงพอสำหรับต้นไม้ทุกปีอยู่แล้ว ไนโตรเจนเหล่าเรียกว่า อินทรีย์ไนโตรเจน เพราะย่อยสลาย และดื่มกินได้ปลอดภัย. เพราะไนโตรเจนเป็นสารตั้งต้นของการสร้างโปรตีนในสิ่งมีชีวิต. ฉะนั้น บรรพบุรุษ เราเมื่อดื่มน้ำฝนจะแข็งแรงมากกว่าเราในสมัยนี้ เพราะในน้ำฝนอุดมไปด้วยธาตุไนโตรเจนอิสระที่จะเข้าไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกาย.


แต่ปัจจุบัน ไนโตรเจนทางการเกษตรที่เรานำมาใช้. คือ เคมีคอลไนโตรเจน. หรือ ไนโตรเจนเคมี. คือ เราสังเคราะห์สารบางตัวให้มีหน้าตาคล้ายไนโตรเจน เรียกว่าไนโตรเจนเทียม. โดยใช้ ปิโตรเลียมเป็นสารตั้งต้น. อันได้แก่ ก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน. ซึ่งมีอัตราต่อเนื่อเยื่อ. หมายความง่ายๆก็คือ เมื่อพืชหรือคนหรือสัตว์ได้รับไนโตรเจนเทียมเข้าไป มันจะเข้าไปประกอบกันเป็นโปรตีนที่อ่อนด้อยคุณภาพในร่างกาย. ซึ่งถูกทำลายได้ง่ายและมีความอ่อนแอ. จะเห็นว่า ยูเรียม. แอมโมเนียมซัลดเฟต. แอมโมเนียมไนเตรท ไทโอยูเรีย. ที่เป็นสารไนโตรเจนสังเคราะห์. พอใช้เข้านานวันเนื้อเยื่อพืชอ่อนแอชัดเจน. แมลงกัดกินง่ายกว่าปกติ. เชื่อโรคเข้าทำลายง่ายกว่าปกติ ฉะนั้นการให้ไนโตรเจนในภาคเกษตรจึงควรค่อยๆให้อย่างค่อยเป็นค่อยไป. การให้ทีเดียวครั้งละเยอะๆจะทำให้เกิดโรคแพ้ธาตุไนโตรเจน. คือ ขอบใบแห้ง. อันเกิดจากการเปลี่ยนธาตุไนโตรเจนเป็นโปรตีน ในพืชไม่ทัน

สินค้าโอเมก้าถูกผลิตขึ้นมาด้วยเหตุผลใด

โอเมก้า.

เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจาก Tech Carbon Compound เข้มข้น 85%. อีก 15% ที่เหลือ เป็นแร่ธาตุให้กลุ่มอื่นๆอาทิ. ฟอสเฟส โพแทสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียม. สังกะสี ฯลฯ. ซึ่งอยู่ในรูป. ออแกนิค คือเป็นแร่ธาตุที่เอาแร่แคลไซด์ แมกนีไซด์มาบดสกัด. ไม่มีการเติมสารปิโตรเลียมหรือเคมีใดๆทั้งนั้น. จึงไม่มีฤทธิ์ กัดกร่อน เผาไหม้หรือแสบร้อน. และที่สำคัญไม่มีวงของไนโตรเจนเลย แม้แต่นิดเดียว

ด้วยเหตุนี้จึงสร้างมาเพื่อให้ลดค่าไนโตรเจนในต้นพืชหรือดิน หรือน้ำ อย่างฉับพลัน เพื่อให้ค่า c/n ratio. ในต้นไม้หรือสภาพธรรมชาติกลับเข้าสู่ภาวะ N ไนโตรเจนน้อยลง. C คาร์บอนเยอะกว่า. เพื่อเตรียมพร้อมสู่การออกดอก. ตามกฎ c/n ratio ในต้นไม้.

และด้วยความที่มีแร่ธาตุสนกลุ่มโพแทสเซียม ออแกนิค จึงช่วยเสมือนเป็นสารตั้งต้นฮอร์โมน เร่งปฏิกิริยาการเปลี่ยนไนโตรเจนตกค้างตามใบ กิ่ง ราก และลำต้น ไปเป็นกรดอะมิโน กลุ่ม แอสพาราจีน และกลูตาเมท อย่างรวดเร็ว. ปกติเราใช้โพสแทสเซียมชนิดเกลือมาช่วย. ซึ่งสุ่มเสี่ยงกับการ ใบแห้ง ใบกรอบ หรือแม้แต่ เกิดกรดและความเค็มขึ้นในดินและบนต้นไม้ต่าง. หากเกลือตกค้างตามซอกใบ. ซอกกิ่งมากเกินไป แบคทีเรียที่อาศันบนนั้นจะใช้เป็นอาหาร และกระจายพันธ์ จนเกิดการเข้าย่อยและกัดกินเปลือกไม้ได้. ทางที่ดี ใช้แร่ธาตุในรูปแป้งดีกว่า.

และ โอเมก้า. ยังมีฮอร์โมนชนิดพิเศษกลุ่ม

โพลีฟีนอลลิค ได้แก่

Sodium nitro phenolate
Sodium ortro phenolate
Sodium para phenolate

หรือที่หลายคนรู้จักในนามรหัส. อโทนิค.

ซึ่งเป็นฮอร์โมนกระตุ้นการทำงานของตาดอก. เพื่อให้ตาดอกรับรู้สภาพอากาศได้เร็วก่อนการออกดอก และทำหน้าที่เปลี่ยนเพศดอกจากตัวผู้ ไปเป็นดอกสมบูรณ์เพศ เพื่อการติดลูกมากขึ้น

มีฮอร์โมน Giberellin เพื่อกระตุ้นการรับสภาพอากาศหนาว. พืชจะรับรู้สภาพเร็วกว่าต้นที่ไม่ได้ฉีด

มี Cytokinin. เพื่อขยายขนาดกิ่ง สะสมแป้ง ขยายดอกและหากพ่นตอนติดลูกจะเริ่มขยายขนาดลูกตั้งแต่ลูกอ่อน. เรามีนิดหน่อยใน โอมก้าม แต้จำนวนมาก ในผลิตภัณฑ์. เฟมโตเ. Femto

ไม่ต้องห่วงว่าเราจะทำสูตรไม่ครบ. เพราะ เดอะซันฟาร์ม จะไม่ขายของ ขวดละชนิด แบบบริษัทอื่นๆ เพราะมันเปลืองเงินเกษตรกร. อะไรรวมกับสารอะไรได้ จับรวมหมด อย่างเข้าใจชนิดของสารออกฤทธิ์

เราใส่ seaweed extract. หรือสาหร่ายสกัดเข้าไปในผลิตภัณฑ์เพื่อเป็นตัวกระตุ้นตาดอกเรียบร้อยแล้วในอัตรา 10%

ซึ่งในนั้นมีโปรตีนบางตัวที่เป็นองค์ประกอบของดอกและผล.

การพ่นโอเมก้า. แนะนำให้พ่น 3. สเต็ป

1. พ่นครั้งแรก. เพื่อลดปริมาณไนโตรเจนลงแบบฮวบฮาบ. เพราะไนโตรเจนในสวนท่านสูงหรือไม่สูง ไปดูวิธีการผลิตของท่านก่อนหน้านี้

หากใ้ไนโตรเจนในสูตรการผลิตเยอะ. ทั้งทางดินและใบ. ท่านทำดอกยากกว่าคนทั่วไปแน่นอน. จึงแนะนำให้ใช้โอเมก้า. ตั้งแต่. อัตรา. 1. ลิตรต่อน้ำ. 1000 ลิตร. ไปจนถึง 2 ลิตรต่อน้ำ 2000 ลิตร

2. การพ่นรอบ 2. พ่นเพื่อกระตุ้นตาดอกจริง. ให้ปลายกิ่งและข้อสร้างตาดอกจริงให้ได้มากที่สุด. หากระหว่างการพ่นครั้งที่ 1 และ 2 มีฝนตกลงมา ให้เข้าใจทั้นทีว่ามีการเติมไนโตรเจนจากฝนลงมาอีกแล้ว. การพ่นรอบนี้จึงควรสังเกตธรรมชาติให้ดี.

จำไว้ว่า. การทำดอกต้นไม้แทบทุกอย่าง. ต้องไม่มีไนโตรเจนในสูตรเด็ดขาด
การพ่น ครั้งที่ 3. เพื่อชักนำดอกสมบูรณ์ ดอกจริง. บางคนติดผลแล้วในครั้งนี้. ต้องทำให้ดอกแข็งแรงที่สุด. หลุดยากที่สุด. แคลเซียมโบรอน อย่านำมาฉีดร่วมเด็ดขาด เพราะบางบริษัท ใช้ แคลเซียม ไนเตรท เป็นสารตั้งต้นการผลิต. มันมีไนเตรท หรือไนโตรเจน อีกหน้าตาหนึ่งปะปนเข้ามา. หากจะฉีดเพื่อขั้วเหนียว. ซึ่งข้อเท็จจริง โอเมก้าทำให้ขั้นเหนียวกว่า แคลเซียมโบรอนมากอยู่แล้ว. แต่หากใครจิตตกขาดมันไม่ได้ ให้ไปใช้ แคลเซียมโบรอน ที่มีสูตรน้ำข้นคือ สีขาว เท่านั้น
การออกดอก. ต้องมีสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์ตามจ้อที่ผมจะกล่าวต่อไปนี้. หรือใกล้เคียงที่สุด

1.ดินแห้ง. สำคัญมาก. ดินต้องแห้งเพื่อจำลองสถานการณ์ให้พืชกระทบแล้ง อย่างน้อย. 14-21 วัน. หลายคนทำดอกได้ตอนดินเปียก แสดงว่า ในสูตรการผลิตท่าน ใช้ไนโตรเจนน้อย. ขอแสดงความยินดี เพราะต้นไม้ท่านจะออกดอกง่ายกว่าใครเพื่อน

2. พืชบางตัวอย่าง มังคุด เงาะ มะม่วง ลำไย ต้องกระทบอากาศเย็นในตอนกลางคืน. ส่วนทุเรียน ลองกอง ไม่เกี่ยง ยังไงก็ได้. ใช้ผลิตภัณฑ์ของเราที่มีจิบเบอเรลลินในสูตรซะ. เช่น. โอเมก้า. ไวตามิก นาโน. เป็นต้น

3.ช่วงแสง. พืชออกดอกปลายกิ่งกลางวันต้องยาวกว่า 12 ชั่วโมง. พืชออกดอก ที่ตากิ่ง. กลางวันยาวนานน้อยกว่า 12 ชั่วโมงได้. เพราะแดดโผล่เผล่. การกระทบช่วงแสงสำคัฯญมากกับการเปิดตาดอก. เพราะฤดูแล้งที่พืชจะออกดอก. ช่วงแสงกลางวันจะยาวกว่ากลางคืน. แต่ดินจะแห้งกว่า. ใช้โอเมก้าเพื่ทดแทนช่วงแสง

4 คาร์บอนต้องมากกว่าไนโตรเจน. สำคัญที่สุด. ทำให้คาร์บอนมากกว่าไนโตรเจนในทุกวิธีที่ท่านรู้จัก

5. ใบต้องแก่ กิ่งต้องแก่. เติมซิลิคอนของเราเพื่อการนั้น. แล้วท่านจะได้ดอกแบบคำนวนได้
นี่คือ หลักการของโอเมก้า นะครับ

ผลิตภัณฑ์เซนติ  คุณภาพคับแก้ว

หน้าที่ของ. ซิลิคอน มีดังนี้ครับ

อย่างที่ทุกท่านทราบว่า ซิลิคอน หรือ กรดซิลิคอนนั้น ผลิตมาจาก หินกลุ่มแคลไซด์ซึ่งให้แร่ธาตุมากมาย อาทิ ฟอสเฟตที่พืชนำไปสร้างเนื้อเยื่อและอวัยวะได้เลย แคลเซียม แมกนีเซียม แมงกานีส โบรอน เหล็ก สังกะสี อลูมินัม ทว่าธาตุที่สำคัญที่สุดให้สินค้าชนิดนี้คือ ซิลิก้า

ซึ่ง เราพบซิลิก้าที่ไหน. คำตอบก็คือ ให้ดินที่อุมสมบูรณ์ทั่วไป ใช้แล้วหมดไป ฉะนั้นดินสวนที่เคยดีในปัจจุบัน จึงขาดซิลิก้ามากทีเดียว. ถ้าขาดแล้วจะเป็นอย่างไร.

จริงๆแล้ว เนื้อเยื่อพืชจะแข็งแรงหรือไม่ ประกอบด้วยหลายเหตุผล แต่เหตุผลหลักๆคือ ช่องว่างระหว่างเนื้อเยื่อ ถ้ามี ฟอสเฟต แคลเซียม หรือ ซิลิก้า อย่างใดอย่างหนึ่งอยู่ จะทำให้เนื้อเยื่อแข็งแรงกว่าต้นไม้ปกติ แต่นี่ใน สินค้าเซนติเรามีให้ครบทั้ง 3 ตัว พืชจึงมีเนื้อเยื่อแข็งแรงกว่าปกติมากๆ.

ซิลิคอนในประเทศมีหลายแบบที่นำเข้ามาขาย

ทั้งทางดิน ซึ่งราคาถูกมาก แต่เนือหนัก จมน้ำ อุดตันหัวฉีด แทบไม่ละลายหรือแขวนลอยเลย. ทำให้ต้องหว่านทางดินเท่านั้น. กับแบบที่ไว้ใช้ฉีดพ่นต้นไม้. เกรดอย่างหนัก มีเนื้อที่เบามาก ละลายกึ่งแขวนลอย. ดูดซึมเข้าสู่ต้นพืชได้ง่าย ธาตุอาหารจากฝุ่นผงของซิลิคอน ละลายและปลดปล่อยได้รวดเร็วมาก

ในส่วนราคา จะพบว่า ซิลิคอนที่เคยทำตลาด หรือมีการนำเข้ามาก่อนหน้า เซนติ มีราคาตั้ง แต่ 1,500-6,000 บาทต่อกิโลกรัม. แต่เกษตรกรกลับสามารถซื้อเซนติ ของบริษัทเราได้ในราคาที่ถูกมาก เมื่อเทียบกับการไปซื้อจากร้านค้าทั่วไป

Unknown Track - Unknown Artist
00:00 / 00:00

Address : 7040 Floor. 7 th  Narita  Building  Popular  Rd. Cheng Wattana Street. Pak-kred  Nonthaburi  11120

Email: Thesunfarm@hotmail.com 

Phone: (+66) 97 995 4911

Certified

Organic

GAP Thailand

© 2012 by The Sun Farm : Minna no Organic Project  Proudly created with Wix.com

  • Facebook App Icon
  • Instagram App Icon
  • Twitter App Icon
bottom of page